top of page

Kokkeriet

รีวิวร้านสุดท้ายในสแกนดิเนเวียทริป คือ Kokkeriet ในโคเปนเฮเกน





Kokkeriet เป็นร้านอาหารเล็กๆแต่charming ดูอบอุ่น มีเสนห์ในแบบของเขา กลิ่นอาหารอบอวลในครัวที่โชยเข้ามาในห้องอาหาร รวมทั้งเป็นร้านที่ผมเห็นลูกค้าประจำเยอะมาก เเสดงถึงมาตราฐานของร้านนี้ได้เป็นอย่างดี


หากมองจากภายนอกแม้กระทั้ง Google map ผมอดตั้งคำถามไม่ได้ว่าทำไม่ร้านเล็กๆที่ดูเก่าไม่ได้หรูหราแห่งนี้ถึงได้ Michelin star ในเมืองที่มีการแข่งขันโหดหินแบบนี้ แต่พอได้สัมผัสแล้ว ร้านอาหารแห่งนี้ก็มีสเนห์ในแบบของมันที่ทำให้หลายๆคนหลงไหลได้ไม่ยาก





ในส่วนการบริการ บริกรน่ารัก มีการแนะนำตัวก่อนเริ่มมื้อ รวมทั้งสามารถจดจำลูกค้าประจำได้เป็นอย่างดี แม้ทีมบริกรจะพยายามเต็มที่ แต่ไม่อาจปิดจุดที่ว่าร้านนั้นมีจำนวนบริกรไม่พอกับลูกค้าอย่างชัดเจนซึ่งเป็นปัญหาในวงการร้านอาหารทั่วโลก ณ ขณะนี้ หลายๆครั้งเราจะเห็นเชฟต้องออกมาช่วยเสริฟ์ หรือการเสริฟ์จานที่ต้องราดซอสนั้น บริกรต้องรีบเดินกลับไปหยิบซอสเครื่องดื่มที่ปกติในร้านระดับนี้ไม่ควรมีพร่องกลับถูกมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย จนมันอาจจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ประสบการณ์ในมื้อนี้โดนลดทอนความยอดเยี่ยมลงไปบ้าง




อาหารของ Kokkeriet นั้น แม้อาจจะดูไม่ตื่นเต้นเท่ากับร้านระดับเดียวกันในเมือง แต่ว่าเข้าใจง่าย วัตถุดิบไม่แปลกตามากนัก องค์ประกอบไม่ซับซ้อนแต่ว่ามีมาตราฐานที่ดีแบบที่ร้านดาวควรจะมี แม้ไม่ใช่สายไฟน์ไดน์ก็สามารถเพลินเพลินได้ไม่ยาก รวมถึงราคาที่ไม่สูงถ้าเทียบกับค่าครองชีพในเมืองแห่งนี้ มีจานดีๆหลายจานที่ทำออกมาได้สุดยอดอย่างปลาmonk


ในเมนูจะมีอะไรบ้างไปชมคำบรรยายตามรูปเลยครับ


Amouse Bouche มีสามคำดังนี้







jerusalem artichoke- gooseberry - salmon roe โดยเชฟเสริฟืเป้น ชิฟแก่นตะวัน กู้ซสเบอร์รี่พูเร่ และ ไข่ปลาเเซลม่อน คำนี้ทำออกมาได้ลงตัวทีเดียวครับ รสเค็มอ่อน ของไข่ปลาตัดกับรสเปรี้ยวหวานของผลเบอรร์รี่ ที่น่าสนใจเห้นจะเป็นjerusalem artichoke ที่มีความหนึบและผิวกรอบ ที่พอผสมผสานกับความกรุบของไข่ปลาแล้วสร้างเท็กเจอร์ที่น่าสนใจในปากจริงๆ




smoked herring - lemon - havgus


Amuse Bouche คำต่อมาเป็น แอเคลร์ ไส้ปลาแฮรริ่งรมควัน เลม่อนเจลเเละชีสhavgus สำหรับhavgus นั้นเป็นชีสที่มีต้นกำเนิดที่ตอนใต้ของเดนมาร์กเเข็งรสเข้มข้นแต่ทานง่ายกลิ่นไม่ฉุนมีความคล้ายเชสด้าอยู่ไม่น้อย คำนี้ผมแอบสงสัยจริงๆตอนฟังว่ามันจะเข้ากันยังไง แต่พอลองทานแล้วก็เป็นคำที่ทำออกมาได้สมดุลดี รสไม่จัดมากแต่ครบองค์ประกอบ รสเปรี้ยวอมหวานอ่อนๆของเลม่อนเข้ากับปลาเนื้อมันได้ดี ชีสรสเค็มเบาๆนั้นช่วยเพิ่มรสชาติอีกนิด เป็นคำที่ดีเลยครับ





mint - trout - squid ink คำสุดท้าย เป็นทาร์ตแป้งหมึกดำ ใส่เนื้อปลาเทร้าต์ ครีมfaiche ปลาเเซลม่อน


คำนี้ตัวทาร์ตแป้งทำออกมาเเข็งและเหนียวไปสำหรับผม ตัวปลารสไม่จัดมากเค็มอ่อนๆ ตัวครีมมีกลิ่นเย็นจางๆของมิ้นต์ ช่วยสร้างความสดชื่นได้อย่างน่ายอดเยี่ยม Amuse Bouche ทั้งสามคำนั้นล้วนมีรสค่อนข้างอ่อน เหมาะสำหรับการทานก่อนเริ่มมื้อดีครับ




scallop - butternut squash - blackberry จานนี้เป็นหนึ่งในจานที่ดีที่สุดในมื้อนี้อย่างไม่ต้องสงสัยโดยบริกรจะมาปรุงสดๆกันที่โต๊ะด้วยถ่านและเปลือกหอยเชลล์ ความร้อนอ่อนของถ่านที่อุ่นอาหารจานนี้ส่งกลิ่นหอมชวนน้ำลายส่อจริง โดยนอกจากหอยเชลล์แล้ว จานนี้ยังประกอบด้วย บัทเตอร์นัท เบล็คเบอรรี่เจล และดอกไม้ ก่อนปิดท้ายด้วย mussel sauce


หอยคุณภาพเยี่ยมหวานมากๆ เนื้อนุ่ม เกลือทะเลที่โรบมาให้เท็กเจอร์กรุบๆตัดกับหอย ตัวซอสครีมมี่รสเค็มอ่อนๆ ตัดกับรสหวานของเครื่องเคียงเเละเเบล็คเบอรรี่ ได้อย่างลงตัว เป็นจานที่ดูง่ายๆแต่ทว่าลงตัวมากๆครับ





ขนมปังทำเอง รับประทานกับกับครีมชีสและน้ำมันเลม่อน ตัวขนมปังเนื้อฟูเหนียวนิดๆและมีรสเค็มกว่าขนมปังที่คุ้นชิน จานนี้มีความแปลกตรงขนมปังนั้นเค็ม แต่ตัวปาดนั้นรสอ่อนกว่า คงเป็นเพราะเรากินกับครีมชีสที่รสอ่อนๆ





langoustine - black currant - garlic


จานนี้ไอเดียดี กินไปมีอารมณ์คล้ายกั้งคั่วพริกเกลือบ้านเราอยู่ไม่หยอก โดยเชฟเสริฟ์เป็นเนื้อลังกุสตีนและกระเทียมcrumble รับประทานกับซอสที่ทำจากเบล็คเคอร์เร้นท์กับbisqueจาก langustine


จานนี้ผมชอบการใช่รสเปรี้ยวหวานที่ไม่หนักมากของแบล็คเคอเร้นท์ที่ตัดกับรสเค็มมันของกระเทียมได้อย่างน่าทึ่ง การผสมbisqueในซอสช่วยให้รสของเบอร์รี่ไม่โดดไปนักและเข้ากับซีฟู้ดได้อย่างกลมกลืน เป็นจานที่เกือบจะดีแต่ติดที่เนื้อlangustineแอบเละไปนิดอย่างน่าเสียดาย





roe of the day - bread - smoked crème

จานนี้เป็นการเสริฟ์ Opensandwich ในอีกแบบนึง ตัวขนมปังนั้นมีเท็กเจอรืที่ค่อนข้างเหนียว มีความแอบคล้ายเค้กเสียมากกว่า รสซอสครีมอ่อนๆไม่จัดมากมีกลิ่นควันเบาๆ ตัวไข่ปลาคุณภาพเยี่ยมมีรสอ่อนๆไม่จัดมากและเด้งกรอบในปาก แต่ตัวขนมปังที่จมซอสจมชุ่มเหนียวในร้านระดับนี้แอบเสียดายจริงๆครับ





monkfish- fennel - atriplex จานต่อมาเชฟเสริฟ์หนึ่งในปลาที่ผมชอบมากอย่างปลา Monk โดยมันเสริฟ์มากับfennelหั่นเต๋า และ ซอสชีส เป็นจานที่ทำออกมาได้ดีมากๆ แม้หน้าตาอาจจะไม่สวยนัก แต่ปรุงออกมาได้เด็ดาดครับ ตัวปลาผิวกรอบบางๆ เนื้อเด้งฉำ่มากๆ อร่อย ตัวซอสจากชีสที่เสริฟ์มาอุ่นๆ ช่วยเพิ่มรสเค็มครีมมี่อ่อนๆที่เข้ากับปลาเนื้อขาวจานนี้ได้ดีมาก ก่อนเพิ่มมิติด้วยกลิ่นหอมของatriplex และเฟนเนลจนเรารู้สึกไม่หนักจนเกินไป ปรุงออกมาได้อย่างไร้ที่ติ ดีมากๆครับจานนี้





veal -potato- cress


จานนี้เชฟเสริฟ์เนื้อสันในลูกวัวกับซอสrosemary demi glace เสริฟ์มากับ cress and picked หอมดอง มันฟรั่งสองแบบ อันนึงนึ่งและ Puree


ตัวเนื้อนุ่มมากๆไม่มีกลิ่นในแบบฉบับเนื้อลูกวัวดีๆควรจะมี ตัวซอสรสเข้มข้นกลิ่นโรสเเมรี่อ่อนๆ บางท่านอาจจะชอบแต่ส่วนตัวผมว่ามันหนักไปนิดสำหรับเนื้อลูกวัว


อาหารจานนี้อาจจะดูธรรมดาไปนิดถ้าเทียบกับจานอื่นในวันนี้ ถ้าเพิ่มกลิ่นโรสแมรี่อีกนิดน่าจะทำให้จานนี้น่าสนใจขึ้น





cucumber - rhubarb - mint


เราถึงจุดที่จานล้างปากเป็นแตงกวาแล้ว ฮ่าา ผมชอบจานนี้เจ๋งดี กลิ่นคลีนสะอาดสดชื่นของไอซ์ครีมแตงกวาที่ถูกแต่งแต้มด้วยกลิ่นหอมเย็นของมินต์ในครีมนั้นชวนให้รู้สึกสดชื่นมาก กรานิต้าrhubarbให้รสอวานอมเปรี้ยวอ่อนๆัน้ป้นเอกลักษณ์ เป็นจานที่ดีได้ครบรส เท็กเจอร์หลากหลาย และน่าสนใจมากๆ อร่อยครับ





Fennel - lemonthyme - white chocolate


ขนมหวานที่นี้ดูมีลุกเล่นเยอะดี โดยเชฟเสริฟ์เป็นMousseเฟนเนล ไวน์ช็อคโกแลตเผา และเกล็ดหิมะ lemonthyme จานนี้มีทั้งส่วนที่ผมชอบคือตัวจานนี้มีองค์ประกอบที่น่าสนใจหลายหลายที่เข้ากันได้อย่างลงตัวไม่ขัดเขิน บางที่แอบรู้สึกทึ่งด้วยซ้ำกับการใช้อะไรแบบนี้ แต่ตัวเท็กเจอร์ยังไม่ค่อยลงตัวนัก Mousseเสริฟ์มาเย็นจนเเข็งไป ตัวช็อคโกแลตแอบเหนียวติดฟัน จนลดทอนความเด่นของตัวหิมะที่ฟูเบา





Petitfour ทำออกมาได้น่าสนใจที่เดียว โดยทุกคำนั้นจะมีส่วนของช็อคโกแลตเป็นส่วนประกอบ แต่รสชาตินั้น มีออกไปในหลายโทน ทั้งขมนำ หวานนำ เปรี้ยวนำ ทำให้เราสนุกสนานและเพลิดเพลินได้ทั้งๆที่อยู่ใน comfort zone



🍾Service : 7.5/10

🍽Food: 7.75/10

🤩WOW factor: 7.5/10

💰Value for money: 8/10


Total: 7.75/10


Visit : July-2022


🗺เเผนที่ : https://g.page/Kokkeriet?share

⏰เวลาเปิดปิด: 5:30PM–12AM ปิดทุกวันพุธ

💵ค่าเสียหาย: ~1000 DKK

⌨️เว็บไซต์ร้าน: https://kokkeriet.dk/


เราเป็นเพจรีวิวร้านอาหาร Fine dining แบบจริงใจและเจาะลึกทั้งในไทยทั่วโลก

ชอบช่วยกดไลค์ ใช่ช่วยกดเเชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้เรา #บอสพาชิม #eatliketheboss


Website: www.eatlikethebossth.com

InstaGram: @eatliketheboss (https://goo.gl/DqzWfN )

FaceBook: บอสพาชิม (https://goo.gl/gHPnnG)

Blogdit: https://www.blockdit.com/eatliketheboss

Email : eatlikethebossth@gmail.com

bottom of page